มาดูเรื่องการสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่เจอบ่อยที่สุด และมักจะใช้ในการเล่าเรื่องมากที่สุด นั่นก็คือประโยคบอกเล่า และประโยคปฏิเสธกันดีกว่าค่ะ ทุกคนจะได้เจาะลึกและลองใช้จริงกันเลยมาเริ่มจากวิธีการแรกกันเลยค่ะ
Step 1 : การแยกระหว่าง Action verb และ Non-action verb
- Action Verb คือ กริยาที่แสดงออกถึงการกระทำ เช่น กิน – eat / ทำงาน – work / เรียน – study / นอน – sleep
- Non-action Verb คือ อะไรที่ไม่ใช่การกระทำ เช่น มีความสุข – happy / คุณครู – teacher / ห้าง – shopping mall
Step 2: นำ Action / Non-action verb ไปใส่ในประโยคบอกเล่า
จะมีด้วยการ 2 แบบ คือ
- Action Verb ตามหลังประธาน
- Non-action Verb ใช้กับ Verb to be
ตัวอย่าง Action Verb ตามหลังประธาน
ฉันกินข้าวเย็น = I eat dinner.
พวกเราดูหนัง = We watch movies.
เขากินข้าวเย็น = He eats* dinner.
เธอดูหนัง = She watches* movies.
* He/She/It ประธานเหล่านี้ อย่าลืมเติม -s/-es ตรง action verb นะคะ *
จากตัวอย่างประโยคด้านบนแล้ว ทุกคนจะเห็นได้ว่า Action verb สามารถตามหลังประธานได้ทุกตัวเลยค่ะ
ตัวอย่าง Non-action Verb ใช้กับ Verb to be
หลักการใช้ Verb to be
- I + am
- He / She / It + is
- You / We / They + are
มาลองใช้ Verb to be กับ Non-action หรือสิ่งที่ไม่ใช่การกระทำกันค่ะ
ฉันมีความสุข = I am happy.
เธอสวย = She is beautiful.
พวกเราเป็นนักเรียน = We are students
การสร้างประโยคปฏิเสธ
Non-action verb เติม not หลัง verb to be ได้เลย เช่น
ฉันไม่ใช่นักเรียน = I am not a student.
เธอไม่ได้หิว = She is not hungry.
พวกเราไม่ได้อยู่ที่บ้าน = We are not at home.
Action verb จะมีตัวช่วย do not(don’t) หรือ does not(doesn’t)
สามารถเลือกใช้ตามประธานได้เลยเพราะหากประธานเป็น
I / You / We / They + do not + action
He / She / It + does not + non-action
ตัวอย่างประโยคโยคปฏิเสธ
ฉันไม่กินอาหารเช้า = I do not eat breakfast
พวกเราไม่ได้ออกกำลังกายทุกวัน = We do not exercise every day.
เขาไม่ได้ไปทำงานวันจันทร์ = He does not go to work on Monday.
เธอไม่ดื่มการแฟในตอนบ่าย = She does not drink coffee in the afternoon.