more than ใช้ยังไง พร้อมยกตัวอย่าง

more than ใช้ยังไง

more than ใช้ยังไงให้ถูกต้อง พร้อมตัวอย่าง ความหมาย และเทคนิคการใช้ในประโยคภาษาอังกฤษ

คำอ่าน: มอร์ แธน
คำแปล: มากกว่า, เกิน, มากกว่าที่จะ

ความหมายพื้นฐานของ More Than

“More than” เป็นวลีที่ใช้บ่อยมากในภาษาอังกฤษ มีความหมายหลักคือ “มากกว่า” หรือ “เกิน” ใช้สำหรับเปรียบเทียบปริมาณ จำนวน หรือระดับของสิ่งต่างๆ

การใช้งานพื้นฐาน More Than

เปรียบเทียบตัวเลข

  • I have more than 10 books. (ฉันมีหนังสือมากกว่า 10 เล่ม)
  • She earns more than $50,000 per year. (เธอหารายได้มากกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อปี)

เปรียบเทียบคุณภาพหรือปริมาณ

  • This task requires more than basic knowledge. (งานนี้ต้องการความรู้มากกว่าระดับพื้นฐาน)
  • The movie was more than entertaining. (ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกเกินกว่าที่คาดไว้)

รูปแบบการใช้ More Than ในประโยค

More Than + ตัวเลข/คำนาม

รูปแบบที่พบบ่อยที่สุดคือการใช้ “more than” ตามด้วยตัวเลขหรือคำนาม

ตัวอย่าง:

  • More than 100 people attended the event. (มีคนมาร่วมงานมากกว่า 100 คน)
  • We need more than time to solve this problem. (เราต้องการมากกว่าเวลาเพื่อแก้ปัญหานี้)

More Than + คำคุณศัพท์/กริยาวิเศษณ์

 เน้นระดับหรือคุณภาพ

  • She is more than capable of handling this job. (เธอมีความสามารถเกินกว่าที่จะจัดการกับงานนี้)
  • The result was more than satisfactory. (ผลลัพธ์น่าพอใจเกินคาด)

 แสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็น

  • I’m more than happy to help you. (ฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยคุณ)
  • The experience was more than amazing. (ประสบการณ์นี้วิเศษเกินคำบรรยาย)

More Than vs Other Similar Expressions

More Than vs Over

 ความแตกต่างในการใช้งาน

  • More than ใช้ได้ทั้งตัวเลขและแนวคิดนามธรรม
  • Over มักใช้กับตัวเลขและระยะทาง/เวลา

ตัวอย่าง:

  • More than 50 students (ถูกต้อง)
  • Over 50 students (ถูกต้อง)
  • More than necessary (ถูกต้อง)
  • Over necessary (ไม่ถูกต้อง)

More Than vs Greater Than

บริบทการใช้งาน

  • More than ใช้ในการสนทนาทั่วไป
  • Greater than ใช้ในบริบททางคณิตศาสตร์หรือเทคนิค

สำนวนและการใช้งานขั้นสูง

More Than Meets the Eye

 ความหมายและการใช้งาน

หมายถึง “มีมากกว่าที่เห็น” หรือ “ซับซ้อนกว่าที่คิด”

ตัวอย่าง:

  • There’s more than meets the eye in this situation. (สถานการณ์นี้ซับซ้อนกว่าที่เห็น)

More Than Welcome

การแสดงความยินดี

ใช้เพื่อแสดงว่ายินดีมากๆ หรือต้อนรับอย่างอบอุ่น

ตัวอย่าง:

  • You’re more than welcome to join us. (คุณเป็นที่ยินดีอย่างยิ่งที่จะมาร่วมกับเรา)

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ More Than

การใช้ร่วมกับ Than ซ้ำ

รูปแบบที่ผิด

❌ More than better than before
✅ Better than before หรือ More than before

การใช้กับ Comparative Forms

กฎการใช้งาน

  • ไม่ควรใช้ “more than” กับคำคุณศัพท์ที่มี -er แล้ว
  • ❌ More than taller
  • ✅ Taller than หรือ Much taller

เทคนิคการใช้ More Than ในการเขียน

การเน้นย้ำในประโยค

สร้างความโดดเด่น

ใช้ “more than” เพื่อเน้นย้ำความสำคัญหรือปริมาณที่เกินคาด

ตัวอย่าง:

  • This project requires more than just technical skills. (โปรเจกต์นี้ต้องการมากกว่าแค่ทักษะทางเทคนิค)

การเปรียบเทียบในการเขียนเชิงวิเคราะห์

ใช้ในงานเขียนทางวิชาการ

  • The research shows more than expected results. (การวิจัยแสดงผลลัพธ์เกินคาด)
  • Students demonstrate more than basic understanding. (นักเรียนแสดงความเข้าใจเกินกว่าระดับพื้นฐาน)

แบบฝึกหัดการใช้ More Than

ประโยคเติมคำ

 แบบฝึกหัดพื้นฐาน

  1. She has _______ three cats. (more than)
  2. The project took _______ expected. (more than)
  3. He’s _______ qualified for this position. (more than)

การแปลประโยค

จากไทยเป็นอังกฤษ

  1. เขามีเงินมากกว่า 1,000 บาท
  2. งานนี้ยากเกินกว่าที่คิด
  3. ฉันมีความสุขเกินคำบรรยาย

เฉลย:

  1. He has more than 1,000 baht.
  2. This work is more than difficult than expected.
  3. I’m more than happy.

สรุปการใช้ More Than

การใช้ตัวอย่างประโยคคำแปล
จำนวนMore than 100 studentsนักเรียนมากกว่า 100 คน
เวลาMore than 2 hoursมากกว่า 2 ชั่วโมง
คุณภาพMore than beautifulงดงามเกินคำว่าสวย
ความรู้สึกMore than happyมีความสุขยิ่งกว่าความสุข

“More than” เป็นวลีที่มีประโยชน์มากในภาษาอังกฤษ ไม่เพียงแต่ใช้เปรียบเทียบตัวเลขเท่านั้น แต่ยังช่วยเน้นย้ำความรู้สึก คุณภาพ และระดับต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้การใช้ “more than” อย่างถูกต้องจะช่วยให้การสื่อสารภาษาอังกฤษของคุณมีความแม่นยำและน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมฝึกใช้ในบริบทต่างๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ